ทำไมการบ่มคอนกรีตเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพของกำลังอัดและลดการแตกร้าวของคอนกรีต

เหตุใดการบ่มคอนกรีตจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อคุณภาพของสินค้า

คอนกรีตต้องการเวลาในการบ่มเพื่อเพิ่มกำลังอัดและความทนทานที่เหมาะสมมีแนวทางดังนี้
- บ่มอย่างน้อย        7 วัน สำหรับคอนกรีตทั่วไป และ 14-28วัน สำหรับคอนกรีตที่ต้องการความแข็งแรงสูง
- การบ่มอย่างน้อย 7 วัน จะทำให้คอนกรีตมีกำลังอัดอย่างน้อย 70% จากข้อกำหนด


ปัจจัยที่มีผลต่อระยะเวลาการบ่ม

1. ประเภทของปูนซีเมนต์
- ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ธรรมดา (OPC) ต้องการเวลาบ่ม 7-28 วัน
- ปูนซีเมนต์เชื่อมเร็ว (RHC) ใช้เวลาบ่มสั้นกว่า

2. อุณหภูมิและสภาพอากาศ
- อากาศร้อนคอนกรีตจะแห้งเร็ว ทำให้ต้องมีการบ่มที่เข้มงวดขึ้น
- อากาศเย็นการพัฒนากำลังอัดช้าลง อาจต้องขยายระยะเวลาการบ่ม

3. ความชื้น
- ควรรักษาความชื้นของคอนกรีตให้สูงในช่วง 7 วันแรก เพื่อป้องกันการแตกร้าวและให้คอนกรีตพัฒนากำลังได้เต็มที่

4. ความหนาและขนาดของคอนกรีต
- คอนกรีตที่มีขนาดใหญ่ต้องใช้เวลาบ่มนานขึ้นเพื่อให้ความชื้นกระจายทั่วทั้งโครงสร้าง

5. สารผสมเพิ่ม (Admixtures)
- สารเร่งแข็ง (Accelerator) ทำให้คอนกรีตพัฒนากำลังเร็วขึ้นและอาจลดเวลาการบ่ม
- สารหน่วง (Retarder) ทำให้คอนกรีตแข็งตัวช้าลง ต้องขยายเวลาบ่ม

                                                                ++++++++++++++++++++++++++++++++
วิธีการบ่มคอนกรีต
- คลุมด้วยกระสอบเปียกหรือผ้าใบพลาสติก – รักษาความชื้นโดยรดน้ำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้คอนกรีตทำปฏิกิริยาได้สมบูรณ์
- บ่มโดยแช่น้ำ (Ponding) – ใช้ในพื้นหรือโครงสร้างแนวนอน
- ฉีดน้ำเป็นระยะ (Sprinkling) – เหมาะกับพื้นที่กว้างและเพือลดอุณหภูมิและป้องกันน้ำระเหยเร็วเกินไป
- ใช้สารบ่มคอนกรีต(Curing Compound)– เคลือบผิวเพื่อกักเก็บความชื้น เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำ


หากไม่บ่มคอนกรีตอย่างเหมาะสม จะเกิดปัญหาอะไรบ้าง
1.กำลังอัดลดลง – คอนกรีตต้องการน้ำเพื่อทำปฏิกิริยากับปูนซีเมนต์ (Hydration) หากน้ำระเหยเร็วเกินไป
กำลังอัดจะลดลงและทำให้โครงสร้างรับน้ำหนักได้น้อยกว่าที่ออกแบบไว้
2.แตกร้าว (Shrinkage Cracking) – ถ้าความชื้นระเหยเร็ว ผิวคอนกรีตจะแห้งและหดตัวเร็วกว่าส่วนด้านใน ทำให้เกิดรอยแตกร้าวบนผิวหน้า
3.ลดความทนทานต่อสภาพแวดล้อม – คอนกรีตที่ไม่ได้บ่มจะมีรูพรุนมากขึ้น ทำให้น้ำและสารเคมีซึมเข้าไปได้ง่าย ส่งผลให้โครงสร้างเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
4.ยึดเกาะกับเหล็กเสริมลดลง – หากคอนกรีตไม่มีความแข็งแรงเพียงพอ จะยึดเกาะกับเหล็กเสริมได้ไม่ดี เสี่ยงต่อการแตกร้าวหรือหลุดร่อน
5.เกิดฝุ่นบนผิวคอนกรีต (Dusting) – หากคอนกรีตไม่ได้รับการบ่ม ผิวหน้าจะแข็งตัวไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดฝุ่นและหลุดร่อนง่าย

                                                                ++++++++++++++++++++++++++++++++

ระยะเวลาการบ่มที่แนะนำ
- 7 วัน – สำหรับคอนกรีตทั่วไป (หากใช้น้ำหรือคลุมด้วยกระสอบเปียก)
- 14 วัน – สำหรับคอนกรีตที่ต้องการความแข็งแรงสูง
- 28 วัน – หากอยู่ในสภาพอากาศร้อนจัดหรือโครงสร้างที่ต้องการความทนทานสูง


สรุป
การบ่มคอนกรีตเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้คอนกรีตแข็งแรง ทนทาน และไม่แตกร้าว
หากไม่บ่มอย่างถูกต้อง จะทำให้โครงสร้างอ่อนแอ แตกร้าว และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
ดังนั้น ควรปฏิบัติตามระยะเวลาการบ่มที่เหมาะสมเพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุด

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้